เปรียบเทียบบริษัทรับเหมาก่อสร้างทั่วไป vs บริษัทสร้างบ้านที่มีมาตรฐาน แตกต่างกันอย่างไร

การสร้างบ้านเป็นงานก่อสร้างที่ต้องอาศัยความละเอียด แม่นยำ และระบบการทำงานที่มีมาตรฐาน และในปัจจุบันมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างจำนวนมากให้เลือก ซึ่งแต่ละบริษัทมีรูปแบบการทำงานที่ไม่เหมือนกันและบางบริษัทมีการทำงานที่ไม่มีมาตรฐานด้านคุณภาพรองรับ ทำให้เกิดความเสี่ยงในระยะยาว

บริษัทรับเหมาก่อสร้างทั่วไป และ บริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐาน

1.ระบบการทำงานและทีมผู้เชี่ยวชาญ

บริษัทรับเหมาทั่วไป
มักเป็นทีมงานขนาดเล็ก ไม่มีสถาปนิกหรือวิศวกรประจำ ไม่มีฝ่ายควบคุมงานที่ชัดเจน การทำงานขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของช่างเป็นหลัก ทำให้มาตรฐานการทำงานไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนเปลี่ยนไปตามบุคลากรแต่ละคน

บริษัทที่มีมาตรฐาน
มีทีมสถาปนิก วิศวกร และผู้ควบคุมงานประจำทุกโครงการ ทำงานตามระบบตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control) พร้อมขั้นตอนตามหลักวิศวกรรม ทำให้ผลงานมีความสม่ำเสมอและเชื่อถือได้

2.ความชัดเจนของแบบและเอกสารการก่อสร้าง

บริษัทรับเหมาทั่วไป
บางรายไม่มีแบบก่อสร้างละเอียด ไม่มี Spec วัสดุที่ชัดเจน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนระหว่างแบบกับการก่อสร้างจริง และเพิ่มความเสี่ยงของการลดสเปก

บริษัทที่มีมาตรฐาน
จัดทำแบบสถาปัตย์ แบบโครงสร้าง และแบบระบบครบถ้วน พร้อมรายการวัสดุ (B.O.Q. / Specification) ชัดเจน ตรวจสอบได้ และใช้เป็นสัญญาอ้างอิงระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้รับเหมาอย่างเป็นระบบ

3.ความโปร่งใสและการควบคุมคุณภาพ

บริษัทรับเหมาทั่วไป
ไม่มีระบบรายงานความคืบหน้า ขาดการตรวจสอบที่เป็นขั้นตอน การก่อสร้างจึงขึ้นอยู่กับหน้างานและช่างเป็นหลัก บางรายขาดความโปร่งใส ทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องวัสดุ งานล่าช้า หรือคุณภาพไม่สม่ำเสมอ

บริษัทที่มีมาตรฐาน
มีระบบรายงานหน้างาน ภาพถ่ายตรวจสอบงานแต่ละขั้นตอนทำให้เจ้าของบ้านสามารถติดตามงานได้ชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน

4.วัสดุและงานก่อสร้าง

บริษัทรับเหมาทั่วไป
มีโอกาสใช้วัสดุไม่ตรงตามที่ตกลง หรือสเปกไม่สม่ำเสมอ บางครั้งเกิดปัญหาลดวัสดุเพื่อให้ต้นทุนถูกลง ส่งผลให้บ้านเกิดปัญหาในระยะยาว เช่น แตกร้าว ทรุด หรือโครงสร้างไม่มั่นคงเท่าที่ควร

บริษัทที่มีมาตรฐาน
เลือกใช้วัสดุที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม มีความคงทนและรับประกันผลงาน มีการตรวจสอบคุณภาพวัสดุที่ใช้จริงในหน้างานตามแบบและสัญญา

5.ระยะเวลาการก่อสร้างและความตรงต่อเวลา

บริษัทรับเหมาทั่วไป
มีโอกาสเจองานล่าช้า เนื่องจากไม่มีทีมงานเพียงพอ ไม่มีแผนงานที่เป็นระบบ หรืออาจเกิดปัญหาทิ้งงานในบางกรณี

บริษัทที่มีมาตรฐาน
มีการวางแผนงานอย่างละเอียด มี Timeline ชัดเจน ควบคุมเวลาผ่านระบบบริหารโครงการ และมีทีมงานเพียงพอให้โครงการเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

6.การรับประกันและบริการหลังการขาย

บริษัทรับเหมาทั่วไป
โดยส่วนใหญ่ไม่มีระบบรับประกันงานก่อสร้างอย่างเป็นทางการ หากเกิดปัญหาอาจแก้ไขไม่ครบถ้วนหรือขาดความรับผิดชอบในระยะยาว

บริษัทที่มีมาตรฐาน
มีระบบรับประกันโครงสร้างและงานสถาปัตย์ชัดเจน พร้อมทีมบริการหลังการขาย สามารถติดต่อได้ตลอดและมีระบบบันทึกข้อมูลบ้านเพื่อดูแลในอนาคต